ระบบ CAT (Computerized Adaptive Testing) ของ GMAT คือระบบที่จะปรับความยากของข้อสอบตาม performance ของผู้สอบ ซึ่งระบบจะประเมินคะแนนที่ผู้สอบจะได้รับจากจุดนี้เช่นกัน นั่นคือ ยิ่งผู้สอบทำได้ดี ข้อสอบที่เจอจะยิ่งยากและคะแนนสุดท้ายที่ออกมาก็จะเข้าใกล้กับคะแนนเต็มมากขึ้น (ข้อสอบGMAT ทั้งพาร์ท verbal และ quant จะมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 51 คะแนน)
และด้านล่างนี้เป็นปัจจัยที่ระบบจะประเมินว่าผู้สอบทำข้อสอบได้ดี
- ทำข้อแรกๆได้ดี (ให้คิดคร่าวๆว่าถ้าหากต้องการได้คะแนน GMAT สูง ควรทำ 9-10 ข้อแรกได้ที่ประมาณ 75% ขึ้นไป)
- ทำข้อถูกให้ติดๆกัน และ ข้อผิดให้กระจาย (การทำข้อสอบถูกหรือผิดติดกันจะส่งผลมากกว่าการกระจายข้อถูกหรือผิดนั้น ดังนั้นผู้สอบควรพยายามฝึกให้สามารถคงระดับข้อถูกผิดไว้ตลอดข้อสอบ โดยไม่ใช่มั่วหมดตอนช่วงท้ายเพราะการที่ทำผิดติดๆกันจะส่งผลให้ดึงคะแนนลงมาได้)
- ทำข้อสอบให้เสร็จ เพราะหากผู้สอบทำไม่ทัน ระบบจะมีการประเมินหักคะแนนในจุดนี้และส่งผลให้คะแนนสุดท้ายลดลงเยอะ ดังนั้นหากใกล้หมดเวลาแล้ว ผู้สอบควรพยายามตอบโดยการตัด choice หรือมั่วให้ครบ
เป็นไงครับ ไม่ยากเลยใช่ไหมในการทำข้อสอบ GMAT ให้ได้คะแนนดีขึ้นโดยการเข้าใจระบบของข้อสอบ แต่การจะเข้าใจและ สามารถบริหารทำข้อสอบ GMAT ได้ดีนั้นแน่นอนว่าข้อมูลด้านบนไม่เพียงพอต่อการเพิ่มคะแนนได้ทันที ผู้สอบยังคงต้องฝึกฝนและให้เวลาในการเตรียมตัวการสอบ GMAT อย่างเพียงพอ