เวลาที่ใช้ในการสอบ
IELTS จะใช้เวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที
TOEFL จะใช้เวลา 4 ชั่วโมง
ราคา
ค่าสอบ IELTS Academic หรือ General training ราคา 6,900 บาท
ค่าสอบ TOEFL ราคาค่าสมัครสอบอยู่ที่ 185 USD หรือประมาณ 6000 บาท
คะแนน
IELTS คะแนนจะแบ่งออกป็น band 1-9 โดยจะมีครึ่งคะแนนด้วย (เช่น band 6.5)
TOEFL คะแนนจะแบ่งออกเป็น 0-120 คะแนน
หากต้องการดูคะแนนแบบละเอียดของ TOEFL and IELTS สามารถคลิกที่ลิ้งค์ได้
ส่วนประกอบในการสอบ
ข้อสอบทั้งสองชนิดประกอบด้วย 4 ส่วน เพื่อทำการทดสอบทั้ง 4 skills เหมือนกัน แต่ว่าลักษณะของการสอบไม่เหมือนกัน
ส่วนต่างหลักๆคือ IELTS จะเน้นถึงลักษณะข้อสอบที่หลากหลายมากกว่า และ ในการสอบพูดจะสอบกับคนจริงๆ แต่สำหรับ TOEFL แล้วจะเป็นการอัดเสียงตอบคำถามที่เราเจอ
ดูรายละเอียดความแตกต่างด้านล่างได้เลยครับ
Speaking
IELTS จะเป็นการพูดกับเจ้าของภาษาจริงๆ และจะใช้เวลาเพียงประมาณ 11-14 นาที และอาจจะต้องสอบคนละวันกับอีกสามส่วน
ในขณะที่ TOEFL จะเป็นการสอบโดยการอัดเสียงใส่คอมพิวเตอร์ และจะใช้เวลาสอบประมาณ 20 นาทีและจะสอบวันเดียวกันเสมอ
Listening
IELTS จะเน้นถึงรื่องราว และการสนทนาทั่วๆไปมากกว่า และจะมีเพียงแค่พาร์ทเดียวจากทั้งหมดสี่พาร์ทที่จะเน้นเป็นบทความจากประชุมหรือเลคเชอร์ ความยาวทั้งสิ้น 30 นาที (แต่คุณจะมีเวลา 10 นาทีในการเขียนคำตอบ) และเราต้องเจอลักษณะคำถามที่หลากหลาย
TOEFL จะเน้นถึงการฟังในลักษณะสถานการณ์ของมหาวิทยาลัยมากกว่า เช่นการสนทนา หรือ เลคเชอร์ในหัวข้อต่างๆ ซึ่งตรงนี้เป็นส่วนที่นับว่าค่อนข้างหินเลยสำหรับ TOEFL แต่ลักษณะคำถามที่เราจะเจอจะเป็นข้อสอบประเภท multiple choices
Reading
ในพาร์ท reading ของ TOEFL และ IELTS จะคล้ายกัน โดยแต่ละบทความเราจะมีเวลาให้ประมาณ 20 นาที (ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้อ่านภาษาอังกฤษ) จะต่างกันแค่ว่าของ IELTS ลักษณะของคำถามที่เราจะเจอจะมีหลากหลายแบบมาก ในขณะที่ของ TOEFL จะเป็น multiple choices
อีกอย่างคือ TOEFL เราอาจจะมีโอกาสเจอได้ตั้งแต่ 3-5 บทความ ดังนั้นเวลาที่ใช้จึงอาจจะไม่เท่ากันในแต่ละคน ในขณะที่ของ IELTS เราจะเจอ 3 บทความเสมอ
Writing
TOELF เราจะเจอโจทย์สองชนิด โดยชนิดแรกจะต้องเขียนแบบคำถามทั่วไปโดยเราต้องเขียนตอบประมาณ 300-350 คำ และ ชนิดที่สองคือการเขียนสรุปจากการอ่านบทความสั้นๆ และ ฟังเลคเชอร์ ซึ่งต้องเขียนประมาณ 200-250 คำ
ในขณะที่ IELTS เราจะเจอโจทย์สองข้อเช่นกัน ข้อแรกจะเป็นการเขียนอธิบาย infographic เช่นกราฟเส้น กราฟแท่ง หรืออาจจะเจอแผนที่ หรือ ขั้นตอนการทำงานของเครื่องยนต์ หรืออื่นๆ ซึ่งเราต้องเขียนมากกว่า 150 คำ
และอีกข้อคือการตอบคำถามแบบทั่วๆไปถามความเห็น การวิเคราะห์ของเราและเราต้องเขียน 250 คำขึ้นไป
ข้อสรุป
จากที่เห็นได้ด้านบนว่าถึงแม้ว่าราคาและจุดประสงค์ที่เราสอบข้อสอบนี้จะใกล้เคียงกัน แต่มันมีจุดที่ต่างกันอยู่หลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาที่ใช้ในการสอบ และ ที่สำคัญมากกว่าคือลักษณะข้อสอบที่ไม่เหมือนกัน โดย IELTS จะเจอโจทย์ที่หลากหลายมากกว่า TOEFL ซึ่งจะเจอส่วนมากเป็น multiple choices และ การพูดจะพูดกับคนๆจริงๆในข้อสอบ IELTS
แต่ด้วยความต่างนี้เองบางทีเราควรจะหาในเน็ตทดลองดูก่อนว่าเราถนัดกับข้อสอบไหนมากกว่า หรือ เช็คให้ดีก่อนว่ามหาวิทยาลัยที่เราต้องการสมัครนั้นรับคะแนนสอบชนิดไหนบ้าง และการเทียบคะแนนเป็นไปอย่างเหมาะสมรึเปล่า เช่นมหาวิทยาลัยอังกฤษบางที่อาจจะไม่ค่อยชอบคะแนน TOEFL และถึงแม้จะรับแต่ก็ตั้งเกณฑ์ไว้สูง หรือ ในทางกลับกันสำหรับมหาวิทยาลัยที่อเมริกาซึ่งอาจจะส่งผลต่อการสมัครของเราได้
แต่สุดท้ายอยากจะบอกว่าคะแนน TOELF และ IELTS นั้น โดยทั่วไปแล้วเป็นแค่สีขาวและดำ คือแค่ผ่านก็พอแล้วดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องพยายามให้ได้คะแนนสูงจนเกินไปถ้าเราผ่านเกณฑ์แล้ว แต่เอาเวลาไปลงที่ปัจจัยอื่นในการสมัครดีกว่า เช่น การเขียนเรียงความ ใบ recommend หรือคะแนนสอบอื่นๆ (eg. SAT, GMAT, GRE)
test